วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2552


ก็อย่างที่โบราณเค้าว่ากันว่า  หวานเป็นลมขมเป็นยา  สิ่งที่น่าคิดก็คือ  ทำไมของที่มีประโยชน์ส่วนใหญ่มักจะมีรสชาติที่ไม่น่ารับประทาน  ไม่อร่อยลิ้นเอาเสียเลย  ก็อย่างเช่นเจ้ามะระนี่แหล่ะ  ที่มีรสชาติขมซะจนไม่อยากจะรับประทาน  ภายใต้หน้าตาที่อัปลักษณ์ของมัน  ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาปฏิวัติการกินเสียใหม่  ชาวเอเชียรู้จักกันดีถึงสรรพคุณของมะระ  แต่ชาวฝั่งตะวันตกกลับกลัวที่จะกินมัน  ทั้งที่ยังไม่รู้ประโยชน์ที่แสนจะอัศจรรย์ของมันแม้แต่น้อย  เรามาดูประโยชน์ของมะระกันเลยดีกว่า

อย่างแรกเลย  คือ  ความขมของมะระนั้นสามารถช่วยให้เราเจริญอาหาร  เพราะสารขมที่อยู่ในมะระนั้นจะช่วยกระตุ้นให้น้ำย่อยออกมามากจึงทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น  ซึ่งเราอาจจะนำมะระไปลวก  หรือเผาไฟจิ้ม  แล้วนำมาจิ้มกับน้ำพริกก็ได้

ต่อมาก็คือ  คุณสมบัติในการการบำบัด  และรักษาโรคเบาหวานระยะเริ่มต้นด้วยสารอาหารในมะระ  ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มเบต้าเซลล์ในตับอ่อน  โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างอินซูลิน  (ฮอร์โมนควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด)  อีกทั้งมะระยังมีเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต  สารอาหารจะผสมอยู่ในรูปของโปรตีน  ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคตับและโรคเบาหวานได้  มะระยังสามารถแก้โรคตับอักเสบ  ปวดหัวเข่า  ม้านอักเสบได้  โดยรับประทานมะระดิบเป็นประจำจะช่วยได้

นอกจากนี้มะระยังมีคุณค่าทางอาหารมากมาย  เพราะอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส  แคลเซียม  วิตามินซี  วิตามินบี๑ – บี ๓, เบต้าแคโรทีน ไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม  เป็นต้น

เมนูอาหารจากมะระ  ได้แก่  ต้มจืดมะระยัดไส้ มะระต้มจับฉ่าย ผัดมะระหมูสับ มะระผัดกุ้ง มะระผัดน้ำมันหอย เป็นต้น  หากจะลดความขมของมะระต้องลวกหรือต้มนาน ๆ  โดยคลุกเคล้ากับเกลือก่อนที่จะนำไปปรุง  หรือต้มน้ำแล้วเทน้ำทิ้ง ๑ ครั้ง  ก่อนนำมารับประทาน  จะช่วยให้กินมะระได้อย่างสบายใจ

แถมท้ายอีกนิด  ด้วยข้อควรระวัง  เราทานมะระที่ดิบ ๆ  กันได้  แต่ห้ามรับประทานมะระที่มีผลสุก  เพราะอาจทำให้คลื่นไส้  อาเจียนได้  เนื่องจากมีสารซาโปนินอยู่มากซึ่งสารนี้จะทำให้เป็นพิษต่อร่างกาย  อีกอย่างอย่าทานมะระมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ท้องเสีย  เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบาย

ไม่น่าเชื่อเลย  ว่ามะระที่มีรสชาติที่ขม  ไม่น่ารับประทาน  ที่ใครหลายคนไม่ชอบรับประทานกันนั้น  จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายจนเราคาดไม่ถึงขนาดนี้  ดังนั้นเราควรจะหันมารับประทานมะระกันบ้าง  จะได้มีสุขภาพที่ดีกัน

 

แหล่งข่าวโดย.... www.teenpath.net

ผู้จัดทำ.... กลุ่มส่งเสริมสนับสนุนวิชาการ

[08 ธันวาคม 2551]

ที่มา http://www.pr-ddc.com/modules.php?name=News&new_topic=2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น



....ตัวอย่างการทำวิจัยชั้นเรียน...
เพื่อเป็นแนวทางในการทำผลงานและการเยีนวยา....
การเตรียมตัวเพื่อทำผลงานทางวิชาการ
ทุกท่านที่จะทำผลงานทางวิชาการต้องมีการเตรียมพร้อมดังนี้ครับ....
คู่มือการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ
จะเตรียมตัวทำผลงาน ต้องมีการวิเคราะห์หลักสูตร และจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้ครับ....
1. ัวอย่างารวิเตราะห์หลักสูตรก่อน
เขียนแผนการจัดการเรียนรู้

ตัวอย่างงานที่ผ่านการตรวจ
2. ตัวอย่าง แผนการจัดการเรียนรู้
3.
ตัวอย่าง บันทึกผลหลังสอน

3.1 ตัวอย่างแผน STAD
3.2 ตัวอย่างแผน CIPPA
3.3 ตัวอย่างแผน Backwards

++
จะค่อยนำขึ้นเรื่อยๆครับ++

4. วิธีเขียน /ตัวอย่างรายงานบทที 1


5. วิธีเขียน /
ตัวอย่างรายงาน บทที่ 2

6. วิธีเขียน /ตัวอย่างรายงาน บทที่ 3

7. วิธีเขียน /ตัวอย่างรายงาน บทที่ 4

8. วิธีเขียน /ตัวอย่างรายงาน บทที่ 5

9.
ตัวอย่าง การเขียนบทคัดย่อ


10.ตัวอย่าง การเขียนบรรณานุกรม


10.1 การจัดเรียงภาคผนวก
10.2 แบบประเมินของผู้เชี่ยวฃาญ

11. ตัวอย่าง การเขียน วฐ.2/1


12. ตัวอย่างนวัตกรรม
12.1 ตัวอย่าง บทเรียนสำเร็จรูป
12.2 ตัวอย่าง วีดิทัศน์

12.3 ตัวอย่าง วีดิทัศน์พระพุทธ
12.4 ตัวอย่าง เอกสารประกอบ
12.5 ตัวอย่างเอกสารประกอบใน
รูปแบบ Powerpoint
13. การหาค่าของคะแนนแบบง่าย

14. ตัวอย่างคู่มือการใช้เแบบฝึกฯ

15. การใช้ Font สำหรับนวัตกรรม.
ที่มา http://www.kruesanbannok.com/index.php